มุมสนทนา
ตายแล้วไปไหนดี พล.ต.ต.นพ.ชุมศักดิ์ พฤกษาพงษ์ |
สิงคโปร์ เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีกฎหมายที่เอื้อต่อการปลูกถ่ายอวัยวะมาก กล่าวคือถ้าคนสิงคโปร์ไม่ได้แจ้งปฏิเสธการบริจาคอวัยวะไว้ในบัตรพกติดตัว หากเกิดตายทันทีหรือเกิดสมองตายแล้วรัฐจะถือว่าผู้นั้นอนุญาตให้ใช้อวัยวะ ของเขาได้ ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธจึงน่าจะทำได้อย่างน้อยเท่าสิงคโปร์ แต่ความที่ตื่นตัวเรียกร้องสิทธิกันเสียจนกุศลจิตเสื่อมถอยไปตามๆกัน ร้อน ถึงผู้หวังดีหาทางออกโดยร่างกฎหมายว่าด้วยการบริจาคอวัยวะและเนื้อเยื่อหลัง การตายเพื่อประโยชน์ในการรักษาพยาบาล แล้วหาทางผลักดันให้เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติผ่าน กรรมาธิการสาธารณสุข ร่างกฎหมายฉบับนี้มีเพียง 7 มาตรา ข้อความที่สำคัญจะปรากฏอยู่ในมาตรา 4,5 และ 6 ดังนี้คือ มาตรา 4 ผู้ประสงค์จะบริจาคอวัยวะหรือเนื้อเยื่อของตนหลังตายเพื่อประโยชน์ในการรักษาพยาบาล ต้องแสดงความจำนงในหนังสือ มาตรา 5 ในกรณีการตายโดยผิดธรรมชาติซึ่งต้องชันสูตรพลิกศพและแพทย์วินิจฉัยว่ามี อวัยวะเนื้อเยื่อที่อาจเป็นประโยชน์แก่การรักษาพยาบาล ซึ่งผู้ตายไม่ได้แสดงความจำนงในการบริจาคอวัยวะหรือเนื้อเยื่อตามมาตรา 4 ให้มีการแจ้งต่อหน่วยงานหรือองค์กรที่สภากาชาดไทย ประกาศกำหนดดำเนินการจัดเก็บรักษาและบันทึกการเก็บรักษาอวัยวะเนื้อเยื่อ นั้นไว้ รวมทั้งดำเนินการแจ้งและขอความยินยอมจากบุคคลตามมาตรา 4 วรรคสอง โดยมิชักช้า
ผมขอเชิญชวนท่านสมาชิก, แพทย์ทั่วประเทศ และสาธุชนชาวไทยพิจารณาให้การสนับสนุนการผ่านกฎหมายฉบับนี้ เพื่อการทำบุญขั้นสูงสุดอันจะเป็นประโยชน์ของคนไข้ที่รอความตายเนื่อง จากอวัยวะสำคัญล้มเหลวจนไม่คืนสภาพ |
จะเขียนผลงานวิชาการตีพิมพ์ระดับนานาชาติได้อย่างไร?
เมื่อบ่ายวันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 ผมทราบข่าวว่าจะมีการบรรยายเรื่อง “How to write scientific paper for successful submission to high impact journals” ที่อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ ห้อง 150 ชั้น 12 ระหว่างเวลา 13.00 – 14.30 น. อันเป็นอาคารหลังใหม่เอี่ยมของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จึงแวะไปฟังดูว่ามีอะไรดีๆมาฝากท่านสมาชิกไหม ก็ปรากฏว่าผู้บรรยายเป็น Editor – in chief ของ Journal of Ethno pharmacology หรือ JEP, อยู่ที่ IBL leiden ประเทศเนเธอร์แลนด์ ชื่อศาสตราจารย์ Robert Verpoote
หัวข้อจริงๆที่ท่านพูดคือ “Publishing a Worldclass Scientific Paper” ซึ่งท่านผู้อ่านสามารถ Download PDF power point presentation ประกอบได้ ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณคณาจารย์จุฬาฯผู้ดูแลเรื่องวิจัยที่จัดงานนี้พร้อมทั้งขอสไลด์จากท่านผู้บรรยายเผยแพร่ให้ผู้สนใจนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ในเว็บไชต์ research.md.chula.ac.th/new.html แล้วคลิกที่ download file
การนำเสนองานวิจัยมีได้ 3 รูปแบบคือ งานเขียน,โปสเตอร์ และการนำเสนอด้วยปากเปล่า แต่ในงานตีพิมพ์นั้นควรหลีกเลี่ยงงานวิจัยซ้ำ (duplication) แรงจูงใจที่จะกระตุ้นให้เรามีผลงานวิจัยตีพิมพ์ในวารสารมีหลายประการ ตั้งแต่การเป็นคนชอบเขียน,การมีข่าวสารจะบอกเล่าเก้าสิบ,การชอบเป็นคนอภิปรายซักถาม,การใช้เป็นพื้นฐานการก้าวหน้าในชีวิตการงาน,การได้มาซึ่งข้อมูลข่าวสารด้านวิทยาศาสตร์ที่น่าสนใจเป็นต้น
เขียนงานวิจัยแล้วไปตีพิมพ์ที่ไหนดี?
วารสารแรกที่นึกถึงก็คงจะเป็นหนังสือวิชาการที่เพื่อนร่วมวิชาชีพสาขาเดียวกันเขาอ่านกัน ยิ่งถ้าได้วารสารอันดับชั้นนำก็ยิ่งดี ดีที่สุดก็คงจะเป็นวารสารที่มี impact factor สูงสุดและถ้าตีพิมพ์เผยแพร่งานของเราได้เร็วก็ยิ่งดี อาจารย์โรเบิร์ตได้พูดคุยถึงความแตกต่างระหว่าง open access กับ subscription model ว่าแบบแรกจะเข้าถึงได้ฟรี จำนวนผู้อ่านก็จะเยอะกว่า ปัจจัยสำคัญคงเป็น Impact Factor ซึ่งก็คือจำนวนการอ้างอิงผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์แต่ละปี ปัจจัยนี้เป็นความพยายามของผู้บริหารวารสารที่จะใช้อ้างอิงหรืออวดอ้างคุณภาพแต่การมี impact factor สูงๆก็ไม่ใช่ว่าจะทำให้วารสารนั้นดีกว่าวารสารที่มี impact factor ต่ำ และบางวารสารอาจใช้วิชามารเพิ่มคุณค่าก็ได้อาทิเช่นชักชวนให้ผู้รายงานอ้างอิงงานของตัวเองเป็นต้น (อ่าน Slide : manipulation impact factor)
JEP ที่อาจารย์โรเบิร์ตเป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการนั้นถือได้ว่าเป็น world Class Journal เพราะมี impact factor ถึง 2.939 หมายความว่ามีจำนวนการนำ full text downloads เกือบ 2 ล้านครั้งต่อปีหรือกว่า 5,000 ครั้งต่อวัน อาจารย์โรเบิร์ตได้กล่าวถึงรูปแบบของบทความทางวิชาการตั้งแต่ full paper,จดหมายถึงบรรณาธิการ, short communication ไปจนถึง review article รูปแบบของบทความควรครอบคลุมหัวข้อที่สำคัญ,ชื่อเรื่องที่ไม่ควรยาวเกินไป,ไม่ใช้คำย่อ
คุณสมบัติของผู้เขียนที่ไม่ควรจะมากคนจนเกินไป แต่ละคนต้องรับผิดชอบเนื้อหาที่ตนเกี่ยวข้อง,ถามความสมัครใจให้แน่ว่าจะร่วมมีชื่อเป็นผู้เขียนบทความหรือไม่,ผู้ที่ทำงานวิจัยเป็นหลัก (ส่วนใหญ่) สมควรจะเป็น first author แต่บางงานก็จะเรียงลำดับอักษรหรือให้คนที่รับผิดชอบเกี่ยวกับงานวิจัยเป็นชื่อแรก
ตัวอย่างที่พบบ่อยๆคือผู้วิจัยหลักที่เป็นนักศึกษาปริญญาเอกหรือหลังปริญญาเอก มักจะเป็นชื่อแรกถ้ามีมากกว่า 1 ชื่อก็ต้องมี footnote ว่าแต่ละคนมีส่วนร่วมเท่าไร,อย่างไร Keywords เป็นองค์ประกอบสำคัญ ซึ่งวาสารส่วนใหญ่จะขอราว 5 Keywords รูปแบบของเอกสารอ้างอิงภาพประกอบและตารางโปรดดูสไลด์ประกอบ
ประเด็นจริยธรรมของการตีพิมพ์ เป็นเรื่องสำคัญที่วารสารต้องดูแลใกล้ชิด
Scientific Misconduct มีประเด็นการลอกเลียน (Plagiarism) ซึ่งพบทั่วโลกเช่นเดียวกับ Publication Misconduct
ผมขอเชิญชวนท่านผู้สนใจดูสไลด์ประกอบเพื่อให้ได้รายละเอียดที่ควรนำไปปฏิบัติเพิ่มเติม เพื่อนำไปสู่การเขียนรายงานส่งตีพิมพ์ในวารสารระดับโลก หรือในการพัฒนาวารสารที่ท่านดูแลอยู่ให้มีมาตรฐานสูงขึ้น
พลตำรวจตรีนายแพทย์ชุมศักดิ์ พฤกษาพงษ์
กองบรรณาธิการ จพสท.